NEW-2-29

ใช้มือถือ ขณะฝนฟ้าคะนอง เสี่ยงถูกฟ้าผ่าจริงหรือไม่

Sharing is caring!

📱☎️ ใช้โทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์บ้าน และเล่นอินเทอร์เน็ต ขณะฝนฟ้าคะนอง เสี่ยงถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตได้ ในช่วงนี้กำลังเข้าสู่หน้าฝนมักมีข่าวประชาชนเสียชีวิตจากเหตุถูกฟ้าผ่า โดยเฉพาะช่วงนี้ สภาพอากาศร้อนอบอ้าวและมีความชื้นสูง หากมีพายุฝนฟ้าคะนองจะมีโอกาสเกิดฟ้าผ่าได้ง่าย ดังนั้น ในช่วงฤดูฝนประชาชนจึงมีโอกาสอย่างมากที่จะถูกฟ้าผ่า ⚡️⚡️
ภัยจากจากฟ้าผ่า เป็นปรากฏการณ์ที่น่ากลัวและมีอันตรายสูง โดยลักษณะของฟ้าผ่า แบ่งเป็น 4 แบบ คือ
1️⃣ ฟ้าผ่าภายในก้อนเมฆ
2️⃣ ฟ้าผ่าระหว่างก้อนเมฆ
3️⃣ ฟ้าผ่าจากฐานเมฆลงสู่พื้น เรียกว่า ฟ้าผ่าแบบลบ
4️⃣ ฟ้าผ่าจากยอดเมฆลงสู่พื้น เรียกว่า ฟ้าผ่าแบบบวก
➕➖ โดยฟ้าผ่าแบบลบและแบบบวกนั้น จะทำอันตรายต่อคน สัตว์ และสิ่งต่างๆ ที่อยู่บนพื้นดิน หรือพื้นน้ำ ซึ่งฟ้าผ่าแบบลบจะผ่าลงบริเวณใต้เงาของเมฆฝนฟ้าคะนองเป็นหลัก ส่วนฟ้าผ่าแบบบวกสามารถผ่าได้ไกลออกไปจากก้อนเมฆประมาณ 40 กิโลเมตร ในเวลาอันรวดเร็ว ภายใน 1 วินาที มักจะเกิดในช่วงท้ายของพายุฝนฟ้าคะนอง คือ หลังจากที่ฝนซาแล้ว
🌧 วิธีการสังเกตสัญญาณความเสี่ยง โดยหากมีเมฆฝนฟ้าคะนองอยู่บนเหนือศีรษะแล้ว ปรากฏว่า เส้นขนบนผิวหนังลุกชันขึ้น หรือเส้นผมบนศีรษะลุกตั้งขึ้น แสดงว่ากำลังเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า หรือหากเกิดพายุฝนฟ้าคะนองใกล้ตัว ในระยะประมาณ 16 กิโลเมตรแล้วมีฟ้าแลบ หรือฟ้าผ่า และได้ยินเสียงฟ้าร้องหลังฟ้าแลบน้อยกว่า 30 วินาที แสดงว่าอยู่ใกล้เขตเสี่ยงฟ้าผ่า ต้องเพิ่มความระมัดระวัง
⛑ วิธีป้องกันตัวให้ปลอดภัยจากฟ้าผ่า โดยมีข้อแนะนำดังนี้
🔴 หากอยู่ในที่โล่ง ให้หาที่หลบที่ปลอดภัย หรือควรหลบในรถยนต์ที่ปิดกระจกมิดชิด แต่อย่าสัมผัสกับตัวถังรถ
🔴 หากหาที่หลบไม่ได้ ให้หมอบนั่งยองๆ ให้ตัวอยู่ต่ำที่สุด แต่อย่านอนหมอบกับพื้น เพราะกระแสไฟฟ้าอาจวิ่งมาตามพื้นได้
🔴 อย่ายืนหลบอยู่ใต้ต้นไม้สูงและบริเวณใกล้เคียงกับต้นไม้ หรืออยู่ในที่สูงและใกล้ที่สูง ที่สำคัญอย่ากางร่ม
🔴 ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือกลางแจ้งในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เพราะแม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะไม่ใช่สื่อล่อฟ้า แต่ฟ้าผ่าจะเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าเข้ามาในมือถือ อีกทั้งโทรศัพท์มือถือมีส่วนประกอบที่เป็นแผ่นโลหะ สายอากาศและแบตเตอรี่ที่เป็นตัวล่อฟ้า จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่า และยังทำให้แบตเตอรี่ลัดวงจรจนเกิดระเบิด ส่งผลให้ผู้ถูกฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บมากขึ้น
🔴 ห้ามใช้โทรศัพท์บ้าน หรือเล่นอินเทอร์เน็ตในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง เพราะฟ้าอาจผ่าลงมาที่เสาสัญญาณ หรือเสาอากาศที่อยู่นอกบ้าน และกระแสไฟจากฟ้าผ่าจะวิ่งมาตามสายโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ทำให้โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ รวมทั้งผู้ใช้งานได้รับอันตราย
🔴 ควรถอดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าออกให้หมด เพราะฟ้าอาจผ่าลงที่เสาไฟฟ้า หรือสายไฟฟ้า ทำให้กระแสไฟฟ้ากระชากเครื่องใช้ไฟฟ้า อาจทำให้เสียได้ และควรดึงเสาอากาศของโทรทัศน์ออก เพราะหากฟ้าผ่าที่เสาอากาศบนหลังคาบ้าน อาจวิ่งเข้าสู่โทรทัศน์ได้
🔴 หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับโลหะทุกชนิด เนื่องจากโลหะเป็นตัวนำไฟฟ้าและอย่าอยู่ใกล้สายไฟ
🔴 หลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำ เพราะเป็นตัวนำไฟฟ้า
🔴 ควรเตรียมไฟฉายไว้ส่องดูทาง เพราะอาจเกิดไฟดับ หรือไฟไหม้ได้
👩‍⚕️👨‍⚕️ วิธีปฐมพยาบาลผู้ถูกฟ้าผ่านั้น ให้สังเกตก่อนว่าในบริเวณที่เกิดเหตุยังมีความเสี่ยงต่อการถูกฟ้าผ่าหรือไม่ ถ้ามีให้เคลื่อนย้ายผู้ถูฟ้าผ่าไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันตัวเราเองจากการถูกฟ้าผ่า และสามารถแตะต้องตัวผู้ถูกฟ้าผ่าได้ทันที เนื่องจากคนที่ถูกฟ้าผ่าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าหลงเหลืออยู่ในตัว ซึ่งต่างจากผู้ที่ถูกไฟฟ้าดู ดหรือไฟฟ้าซ็อต
ดังนั้น จึงไม่ต้องกลัวว่าเราจะถูกไฟฟ้าดูด หากผู้ถูกฟ้าผ่าหมดสติ ไม่รู้ตัว หัวใจหยุดเต้น และไม่หายใจ ซึ่งสังเกตได้จากอาการที่เกิดขึ้น คือ ริมฝีปากเขียว สีหน้าซีดเขียวคล้ำ ทรวงอกเคลื่อนไหวน้อยมากหรือไม่เคลื่อนไหว ชีพจรบริเวณคอเต้นช้าและเบามาก ถ้าหัวใจหยุดเต้นจะคลำชีพจรไม่ได้
หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ขอให้ช่วยผายปอดทันทีก่อนนำส่งโรงพยาบาล ด้วยการให้ลมทางปาก หรือที่เรียกว่า “การเป่าปาก” ร่วมกับนวดหัวใจเพื่อให้ปอดและหัวใจทำงาน โดยให้วางมือตรงกึ่งกลางลิ้นปี่เล็กน้อย ในกรณีทำการปฐมพยาบาลคนเดียวให้นวดหัวใจ 15 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 2 ครั้ง ถ้าทำการปฐมพยาบาลสองคน ให้นวดหัวใจ 5 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 1 ครั้ง ก่อนนำผู้ป่วยส่งแพทย์ต่อไปประชาชนที่สนใจ
❗️❗️สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักโรคจากการประกอบอาชีพ โทร. 02-5904395 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422.
//ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th//

Sharing is caring!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *