ใบสั่งจากกล้องวงจรปิด “ไม่จำเป็นต้องจ่าย” จากข่าวลือว่าศาลไม่อนุมัติให้ออกใบสั่งจากกล้อง เรียกเก็บค่าปรับไม่ได้นั้น “ไม่จริง” ถ้าใครยังเชื่อก็เข้าใจผิดอย่างแรง ซึ่ง “ความจริง” ที่ถูกต้องคือ เมื่อโดนใบสั่งทุกประเภทและผิดจริง “ต้องจ่ายค่าปรับ” เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากไม่ไปจ่ายค่าปรับตามใบสั่งภายในระยะเวลาที่กำหนด ถึงจะต่อภาษีประจำปีได้ตามปกติ แต่จะมีการแจ้งว่ามีใบสั่งค้างชำระ ซึ่งถ้าไม่พร้อมหรือดื้อที่จะไม่ชำระตามใบสั่งอีก กรมการขนส่งทางบกจะไม่ออกป้ายวงกลมให้ (อดีตเคยกลม ปัจจุบันเป็นสี่เหลี่ยมแล้ว) โดยจะออกหลักฐานชั่วคราว (30 วัน) แทนการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปีแทน พอจ่ายค่าปรับแล้วถึงไปรับป้ายภาษีติดหน้ารถได้ตามปกติ
ทั้งนี้เมื่อโดนใบสั่งจากกล้องจราจรหรือใบสั่งทุกประเภทแล้วไม่จ่าย ถึงต่อภาษีได้แต่ไม่ได้ป้ายวงกลม (ภาษาทางการเรียกว่า เครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี) แต่การใช้รถโดยไม่ติดป้ายเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี ก็มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท (คือต้องคอยวัดดวงว่าจะเจอตำรวจเรียกไหม) ♂️
และที่แน่ ๆ หากเลยกำหนดชำระค่าปรับใบสั่ง จะต้องโดนค่าปรับล่าช้าอีก 1,000 บาท เรียกว่าจ่ายบานเบอะกันเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าผิดจริงก็ควรจ่ายให้เรียบร้อย อย่าไปดันทุรังหาช่องเลี่ยงค่าปรับใบสั่งให้เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย เพราะปัจจุบันมีช่องทางให้ชำระค่าปรับได้สะดวกสบาย
โดยช่องทางการชำระค่าปรับใบสั่งมีเพียบไม่ต่างจากกล้องจราจร ตามที่สะดวก ดังนี้
จ่ายทันที ณ จุดตรวจหรือด่านตรวจที่ออกใบสั่ง (กรณีไม่ใช่ใบสั่งจากกล้องจราจร)
เคาน์เตอร์เซอร์วิส (Counter Service) เช่น เซเว่น อีเลฟเว่น
CenPay ของเครือ CENTRAL Group เช่น แฟมิลี่ มาร์ท, Tops, เซ็นทรัล, โรบินสัน, บีทูเอส, ไทวัสดุ, HomeWorks, Power Buy และ Super Sports เป็นต้น
ธนาคารกรุงไทย ได้ทั้งเคาเตอร์ทุกสาขา ตู้ ATM หรือแอปฯ KTB NETBANK ผ่านสมาร์ทโฟน
ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ
สถานีตำรวจท้องที่
ถ้าทำผิดกฎจราจรจริงก็คงไม่มีข้อแก้ตัว ควรยืดอกพกใบสั่งและรีบไปชำระค่าปรับเสียให้เรียบร้อย การเลี่ยงไม่จ่ายอาจไม่ใช่วิธีคิดที่ถูกต้องไหนจะต้องเจอค่าปรับล่าช้าอย่างโหดถ้าเกินกำหนด ส่วนใครจะลุ้นไปจ่ายที่ศาลก็ต้องทำใจยอมรับว่าเสียเวลาแน่
//ขอบคุณข้อมูลจาก car.kapook.com //
