คนที่คิดว่า ประกันชั้น 1 เคลมได้ทุกอย่าง เช่น ขอเคลมสี เคลมกระจก ทำให้แตกเองแล้วก็ไปบอกกับประกันว่า ฉันไม่รู้ว่าใครทำ! .. เชื่อไหมว่ามีคนแบบนี้จริงๆ ถึงแม้ว่าจำนวนสัดส่วนจะมีไม่มาก จนแม้กระทั่งหน่วยงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เองก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับบริษัทประกันภัยที่เจอเรื่องแบบนี้บ่อยๆ ด้วย เนื่องจากทุกปี จะมีผู้ที่ทำเรื่องขอเคลมเกินกับเบี้ยประกันที่ส่งโดยไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่จริง เพราะบางเรื่องไม่ต้องใช้บันทึกแจ้งความก็เคลมได้ อย่างเช่น รอยชน รอยข่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ
⚙️ ประกันชั้น 1️⃣ เจอเคลมบ่อย
ประกันภาคสมัครใจมี 5 แบบ (ชั้น 1 ถึง 5) แต่ที่เจอเคลมบ่อยสุดจนต้องมี Black List บ้าง ก็คือประกันชั้น 1 (เพราะตั้งแต่ประกันชั้น 2 ลงไปไม่ได้ซ่อมให้กับรถผู้ทำประกัน) โดยปกติแล้วใครจ่ายมากจ่ายน้อย ก็อยู่ที่ความเสี่ยง โดยรถสาธารณะก็มักจะต้องจ่ายเบี้ยประกันสูงกว่ารถที่คนขับคนเดียว ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าแต่ละคนจะมีพฤติกรรมขับขี่อย่างไร❓ แต่ก็มีสถิติการเก็บประวัติ จากประเภทของรถ เพศและอายุของคนขับเป็นเกณฑ์
⚙️ เคลมเท่าไหร่ถึงเรียกว่าบ่อย❓
เคลมบ่อย เคลมเยอะ อย่างที่เราพูดถึงในวันนี้เป็นการเคลมระดับที่ต้อง Black List กันก็คือ การที่คุณเคลมเกิน 200% ของเบี้ยประกันภัยต่อปี แบบกรณีที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ยกตัวอย่างเช่น คุณบอกว่าคุณขับรถชนต้นไม้ หรือ อะไรก็ไม่รู้มากระแทกรถ ต้องซ่อมสี ซ่อมรอยบุบ โดยทำประกันรถไว้ 10,000 บาท แต่ซ่อมสีซ่อมทุกอย่างเกิน 2 ล้านบาท นี่ถือว่าปีหน้า ประกันไม่รับทำต่อแน่นอน (แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อนุมัติให้ถึง 200 เท่าง่ายๆ)
⚙️ ความเสียหายไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ คืออะไร❓
ความเสียหายแบบนี้เรียกกันภาษาเราว่า “เคลมแห้ง” คือการเคลมโดยไม่สามารถระบุตัวผู้ชนได้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นคน หรือสิ่งของทำให้รถเป็นรอย แต่หากรู้ว่ามีคู่กรณีเป็นพาหนะมาชน อย่างน้อย พ.ร.บ. ของรถคันนั้นก็ต้องช่วยจ่ายค่าเสียหายแก่เราบ้าง ถึงแม้ว่าปีนั้นมูลค่าการเคลมสูง ประกันก็ไม่ Black Listแต่จะมีผู้ที่ชอบเคลมทีเดียว (เก็บรอบคัน) เมื่อเกือบครบปี เพราะไม่ค่อยมีเวลาเอารถเข้าอู่ไปซ่อมสี เพราะต้องใช้รถบ่อยๆ แบบนี้หากเคยมีใบเคลมที่เก็บสะสมมาตลอดทั้งปี ทางประกันก็ยังซ่อมให้อยู่ และยอดก็ต้องไม่เกิน 200% ก็ไม่มีปัญหา ไม่ถูก Black List แต่ถามว่ามีโอกาสถูกเก็บเบี้ยเพิ่มขึ้นในความคุ้มครองเท่าเดิมไหม? ก็อาจจะมี แต่จะดีกว่าไหม หากเคลมแบบพอดี เคลมไม่บ่อย และได้รับส่วนลดในปีต่อไป สูงสุด 50% เลยทีเดียว แม้ว่าจะย้ายค่ายไปใช้ประกันภัยเจ้าอื่น เราก็นำประวัติที่ไม่เคยเคลมนี้ไปเป็นส่วนลดต่อได้เช่นเดียวกัน (แต่ต้องดูว่าเขามีนโยบายให้ส่วนลดคนขับประวัติดีด้วยหรือเปล่า?)
⚙️ เคลมแค่ไหน เสียประวัติ❓
เคลมแห้ง 200% ของราคาเบี้ยประกันภัยที่จ่ายต่อปี โดยเคลมความเสียหาย ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป แต่หากเกิดอุบัติเหตุรถชน (อาจจะไม่ครั้งเดียว) กับคู่กรณี แล้วต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าอื่น ๆ รวมแล้วจะไม่เกิน 200% ของเบี้ยประกันภัยที่จ่าย (ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเกินเพราะประกันภัยคิดทุนประกันมาไว้แล้ว) เพียงครั้งเดียว ก็ไม่ถือว่าติด Blacklist
⚫️ ติดแบล็คลิสกับประกันสามารถต่อประกันกับเจ้าเดิมได้ไหม❓
หากอยากต่อกับที่เดิมอยู่ ก็ต้องจ่ายเบี้ยเพิ่ม 30% จากเบี้ยประกันเดิมในทุนประกันเท่าเดิม
⚙️ บริษัทประกันไม่รับต่อประกันเราได้ด้วยหรอ❓
ประกันเจ้าเดิมมีสิทธิ์ปฏิเสธการต่ออายุให้ผู้ที่เรียกเคลมสินไหมเกิน 200% แบบระบุคู่กรณีไม่ได้ตามที่กล่าวมา แต่คุณก็สามารถย้ายค่ายไปต่อประกันภาคสมัครใจกับเจ้าอื่นได้ นอกจากนี้มี 3 ข้อ หากเกิดขึ้นแล้วประกันไม่รับเคลม ได้แก่
1️⃣ นำรถยนต์ไปใช้นอกอาณาจักร
2️⃣ นำรถยนต์ไปใช้ชิงทรัพย์หรือขนยาเสพติด
3️⃣ ใช้แข่งขันความเร็ว ดังนั้นรถแต่ง รถซิ่ง ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองในเรื่องนี้
//ขอบคุณข้อมูลจาก tqm.co.th//