106808777_2821363504761822_1622721798557336450_n

เลือกซื้อประกันรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่า

เลือกซื้อประกันรถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่า 🚘🚖 🌀ราคาเบี้ยประกันรถยนต์เหมาะสม อย่างที่ทราบกันว่าประกันภัยรถยนต์มีหลายประเภท อีกทั้งเบี้ยประกันรถยนต์นั้นมีหลากหลายราคา ตั้งแต่หลักพันไปถึงหลักหมื่น ซึ่งถ้าเราเลือกประกันรถยนต์ที่มีเบี้ยประกันภัยเหมาะสม คือไม่ลำบากต่อเงินในกระเป๋าของเรามากจนเกินไป หรือไม่เลือกเบี้ยประกันที่สูงเกินความจำเป็น เช่น ถ้าเราไม่ค่อยได้ขับรถทุกวัน ก็อาจเลือกประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ หรือ 3+ ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 นั่นเอง 🌀ความคุ้มครองคุ้มค่า ทั้งนี้ค่าเบี้ยประกันรถยนต์จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่เราจะได้รับอย่างประกันรถยนต์ราคาถูก ก็อาจจะให้ความคุ้มครองได้น้อยกว่าประกันรถยนต์ที่มีราคาสูงกว่า ซึ่งก่อนจะซื้อประกันรถยนต์ เราก็ควรศึกษารายละเอียดเรื่องความคุ้มครองต่างๆ ว่าเหมาะสมและคุ้มค่าพอที่จะชดเชยค่าเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก และความคุ้มครองต่อรถคันเอาประกันภัย เป็นต้น 🌀เคลมประกันได้ที่อู่ไหนบ้าง เราจะได้ใช้ประกันรถยนต์ก็ตอนที่นำรถไปเคลมประกัน ซึ่งนอกจากตอนซื้อประกันเราจะต้องดูพวกความคุ้มครองและค่าชดเชยต่างๆ แล้ว ก็ควรดูด้วยว่าประกันรถยนต์ที่เราทำนั้น สามารถนำไปเคลมประกันกับอู่ใดได้บ้าง อู่ซ่อมรถมีสาขาให้บริการมากน้อยแค่ไหน ซึ่งบางที่ก็จะสามารถนำรถไปเคลมกับอู่ในเครือของบริษัทประกันนั้นๆ ได้เลย แต่บางที่ก็ต้องสำรองเงินเอาเข้ารถไปซ่อมเองก่อน ซึ่งถ้าจะให้ดี ควรเลือกประกันรถยนต์ที่มีอู่ซ่อมรถในเครือของบริษัทประกันเลยจะดีกว่า 🌀บริการเสริมระหว่างเคลมประกัน สำหรับข้อนี้ ถือว่าเป็นข้อเปรียบเทียบที่เรียกลูกค้าได้มากเลยทีเดียว หากบริษัทประกันไหนมีบริการเสริมที่คอยช่วยเหลือลูกค้าเอาประกันในเวลาเกิดอุบัติเหตุ ก็จะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากขึ้น เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง บริการเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา หรือการให้บริการรถยนต์ใช้งานระหว่างซ่อม เป็นต้น 🌀ลักษณะการใช้งานและสภาพของรถยนต์ […]

106936818_2820724551492384_7271539571799880656_n

เป็นหนี้ ไม่จ่ายหนี้ โดนอะไรบ้าง ?

เวลาที่เราใช้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลไปแล้วนั้น ในทุกๆเดือนๆ เราจำเป็นต้องชำระยอดที่เรารูดซื้อคืน หรือยอดที่ชำระสินเชื่อรายเดือนในจำนวนๆที่เท่ากันแต่ละเดือนนั้น ถ้าเราจ่ายตรงเวลา ก็ถือว่าเป็นลูกหนี้ที่ดี และยอดเงินต้นก็จะนำไปหักลบดอกเบี้ยอีกด้วย แต่หากเราไม่จ่าย หรือจ่ายไม่ทัน หรือไม่จ่ายหนี้เลย เราจะโดนอะไรบ้าง? 🔵 โดนตามทวงหนี้ให้ชำระหนี้ หากเราเบี้ยวไม่จ่ายหนี้บัตรกดเงินสด หรือหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือไม่ชำระหนี้ตามยอดที่แจ้งในบิลแจ้งหนี้ ไม่ว่าจะเป็นการไม่จ่ายหนี้ยอดชำระขั้นต่ำ หรือการไม่จ่ายหนี้ยอดชำระเต็มจำนวนก็ตาม สิ่งแรกที่จะโดนคือ โดนสถาบันการเงิน และธนาคารติดต่อคุณเพื่อทวงหนี้ เช่น การส่งข้อความทาง sms การส่งอีเมล์ การโทรศัพท์ครับ 🔵 ทำธุรกรรมยากขึ้น หากไม่ยอมจ่ายหนี้บัตรเครดิต และหรือค้างชำระหนี้เกิน 3 เดือน จะทำให้ธนาคารและสถาบันการเงิน พิจารณาเรื่องการให้ยืมสินเชื่อในครั้งต่อไป และอาจจะทำให้ทำธุรกรรมยากขึ้น 🔵 สั่งฟ้อง เมื่อไม่สามารถเก็บค่าหนี้จากลูกค้าได้ สถาบันการเงินก็จะทำการฟ้อง ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นจากการไม่ใช้หนี้บัตรกดเงินสดนี้จะเป็นคดีแพ่ง ทำให้คุณต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ซึ่งทางที่ดีเราควรเจรจากับสถาบันทางการเงินหรือทางธนาคาร ก่อนที่เรื่องจะเลยเถิดมาถึงขั้นนี้ครับ 🔵 ยึดทรัพย์ หากขึ้นศาลและมีข้อตกลงให้มีการประนอมหนี้ แต่หากว่าคุณยังไม่จ่ายหนี้ตามกำหนด ธนาคารหรือสถาบันการเงินก็มีสิทธิ์ขอยึดทรัพย์สินของคุณ ซึ่งทั้งนี้ยึดตามทรัพย์สินของชื่อคนที่ถูกระบุว่าเป็นหนี้ครับ จะดีกว่ามาก หากเราเลือกสินเชื่อที่เหมาะกับฐานเงินเดือนของเรา และชำระหนี้อย่างตรงต่อเวลา เราจะไม่ถูกดำเนินการตามกฏหมาย […]

NEW-2-37

ขับรถปิดแอร์เปิดกระจก ช่วยประหยัดน้ำมัน ได้จริงหรือไม่?

⛅️🌬 ขับรถปิดแอร์แล้วเปิดกระจกจะช่วยประหยัดน้ำมัน หรือปิดแอร์ขับรถช่วงหน้าหนาวจะช่วยเซฟค่าน้ำมันได้ ซึ่งคงมีบางท่านที่เคยเจอกับสถานการณ์ระหว่างขับรถอยู่แล้วน้ำมันใกล้จะหมด จึงเลือกที่จะปิดแอร์ แล้วลดความร้อนด้วยการเปิดกระจกเอา เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีที่จะสามารถลดการใช้น้ำมันได้มากที่สุด แล้วในความเป็นจริงการขับรถปิดแอร์นั้น จะสามารถช่วยประหยัดน้ำมันรถได้มากน้อยแค่ไหน ? 🔶 ขับรถปิดแอร์ ประหยัดน้ำมันจริงหรือไม่ ? เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าการปิดเครื่องปรับอากาศแล้วเปิดกระจกขับรถจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น เนื่องจากแอร์ก็ใช้พลังงานจากน้ำมันรถด้วยเช่นกัน หากปิดการทำงานก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ รวมถึงทำให้กำลังของเครื่องยนต์ถูกหน่วงน้อยลง ส่งผลให้อัตราเร่งดีขึ้นไปด้วย โดยการปิดเครื่องปรับอากาศ และเปิดกระจกสามารถลดการใช้เชื้อเพลิงได้มากถึง 10% แต่มีข้อจำกัดสำคัญก็คือต้องขับขี่ในความเร็วต่ำเท่านั้น เนื่องจากตามหลัก อากาศพลศาสตร์ หรือ Aerodynamics เมื่อเปิดกระจกก็จะทำให้อากาศเข้ามาในรถ และหากใช้ความเร็วสูงก็จะทำให้เกิดแรงต้านลม ส่งผลให้ต้สิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิงมากกว่าปกติด้วยซ้ำ ‼️‼️ ดังนั้นสามารถกล่าวได้ว่าการขับรถปิดแอร์ และเปิดกระจกสามารถช่วยประหยัดน้ำมันได้จริง แต่ควรขับขี่ในความเร็วต่ำ และไม่ควรใช้ความเร็วสูงเพราะจะใช้เชื้อเพลิงมากกว่าเดิมอย่างไรก็ตามวิธีขับรถให้ประหยัดน้ำมันได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุดนั้นขึ้นอยู่กับหลาย ๆ องค์ประกอบด้วยกันทั้ง การเลือกรถยนต์ให้เหมาะกับการใช้งาน, สภาพการจราจร, การบรรทุกของหนัก, ลักษณะการขับขี่ของผู้ใช้รถแต่ละคน รวมถึงการเติมลมยางให้เหมาะสมกับรถ //ขอบคุณข้อมูลจาก car.kapook.com//

NEW-2-26

ข้อควรระวัง!! จอดรถกลางแดด มีผลเสียอย่างไรบ้าง?

🚘☀️ แสงแดดส่งผลกระทบกับทั้งเราและรถของเรา โดยเฉพาะรถยนต์ของเรานั้น หากต้องจอดรถตากแดด ไว้นานๆ ก็จะมีผลเสียตามมา การจอดรถกลางแดด มีผลอย่างไรบ้าง ให้พวกเราที่ใช้รถเป็นประจำได้ทราบกัน จอดรถกลางแดด มีผลอย่างไรบ้าง รีบอ่านก่อนที่รถจะเสียหาย 1️⃣ อุปกรณ์ที่เป็นยางจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว การเสื่อมสภาพรวดเร็วขึ้นของอุปกรณ์ที่เป็นยางนั้น มีผลทั้งภายในและภายนอกรถเลยทีเดียว หากว่าเราจอดรถตากแดดไว้นานๆ และบ่อยครั้ง โดยตัวอย่างอุปกรณ์ที่เป็นยาง ก็เช่น ภายนอก – ยางที่ปัดน้ำฝนหน้ารถ ขอบยางรอบกระจก ภายใน – ที่หุ้มพวงมาลัย เป็นต้น รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถที่เป็นยางก็ได้รับผลกระทบจากการจอดรถตากแดดเช่นกัน ตัวอย่าง ตัวยึดมือถือติดกระจก เป็นต้น 2️⃣ เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานสั้นลง สาเหตุที่ส่งผลให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่สั้นลง ก็คือ การเจอกับความร้อนที่หนักหน่วงมากๆ จากแสงแดด ในขณะที่เราจอดรถไว้กลางแดด นั่นเอง 3️⃣ สีของตัวรถถูกทำลาย การจอดรถกลางแสงแดดเป็นประจำนั้น จะมีส่วนที่ส่งผลให้สีของรถนั้นซีดลงหรือออกสีเหลืองหน่อยๆ ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าการจอดรถตากแดดบ่อยๆ นั้น จะเป็นการทำลายสุขภาพสีของรถได้เลยทีเดียว 4️⃣ แอร์ทำงานหนัก ความร้อนที่สะสมอยู่ภายในตัวรถจากการที่เราจอดรถไว้กลางแดดนั้น จะส่งผลให้แอร์ภายในรถทำงานหนักขึ้น เพราะต้องเร่งแอร์เพื่อลดความร้อนในรถนั่นเอง และการที่แอร์ทำงานหนักขึ้นนี้ก็อาจจะส่งผลให้เกิดการรั่วไหลของระบบท่อแอร์ก็เป็นได้ 5️⃣ ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพเร็วขึ้น […]

NEW-2-24

หม้อน้ำรถยนต์ควรเติมอะไรดีที่สุด? “น้ำเปล่า” หรือ “Coolant”

💧หลายคนอาจสงสัยว่าหม้อน้ำรถยนต์ควรเติมอะไร ? โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับกับรถคันแรก บ้านอาจจะบอกว่าเติมน้ำเปล่าก็พอแล้ว หรือช่างผู้เชี่ยวแนะนำให้เติมน้ำยาหล่อเย็น (Coolant) ดีกว่ากันว่ าเติมแบบไหนมีข้อดียังไง และมี ข้อเสียอะไรบ้าง อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า “หม้อน้ำ” คือส่วนสำคัญของระบบหล่อเย็นรถยนต์ โดยทำงานร่วมกับปั๊มน้ำ วาล์วน้ำ และพัดลม ซึ่งระบบระบายความร้อนทั้งหมดจะทำงานตั้งแต่เครื่องเริ่มสตาร์ตทันที ในระบบการระบายความร้อนจะมีการใช้น้ำแบบหมุนเวียน ซึ่งน้ำทั้งหมดจะไหลผ่านตามท่อต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ 🔥🔥 💡ถ้าเติมน้ำเปล่าไปจะเป็นอย่างไร? การเติมน้ำเปล่านั้น ช่วงแรก ๆ ที่เติมมาใหม่จะยังไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่ในระยะยาวจะเริ่มออกอาการตามเวลาอย่างตระกรันในหม้อน้ำ หากละเลยไปจะมีการสะสมเรื่อย ๆ จนทำให้หม้อน้ำอุดตัน ยิ่งอะไหล่บางส่วนในเครื่องยนต์ของรถรุ่นใหม่ถูกผลิตด้วยอะลูมิเนียม อาจทำให้เป็นสนิมง่าย เกิดผุกร่อนจนกลายเป็นรอยรั่ว และยังทิ้งเศษตะกอนแดงเอาไว้อีกด้วย ดังนั้นเราควรป้องกันไว้ดีกว่าแก้ กับอีกตัวเลือกที่ปกป้องได้มากกว่าอย่าง น้ำยาหล่อเย็น (Coolant) เพราะมีส่วนผสมของสาร Ethylene Glycol ช่วยชะลอการเดือดได้ดีกว่า ด้วยคุณสมบัติที่มีจุดเดือดสูงกว่าน้ำเกือบ 2 เท่า ทำให้ช่วงอุณหภูมิกว้าง นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันการเกิดสนิมสาเหตุของการผุกร่อน, ช่วยหล่อลื่นปั๊มน้ำให้ทำงานได้ดี, ด้วยสีผสมสารเรืองแสงของน้ำยาหล่อเย็น ช่วยเรื่องการสังเกต ทำให้เห็นรอยรั่วตามอะไหล่ รวมถึงที่พื้นถนนได้ชัดเจนกว่า ในกรณีเกิดปัญหาหกรั่วไหล และที่มองข้ามไปไม่ได้ […]

NEW-2-36

ล้างรถด้วยน้ำยาล้างจาน หรือสบู่ มีผลต่อรถ หรือไม่?

ผู้ใช้รถส่วนใหญ่มักจะเคยได้ยินคำบอกเล่ากันต่อๆ มาว่า การล้างรถด้วยน้ำยาล้างจานหรือล้างรถด้วยสบู่ สามารถใช้ล้างรถได้แทนน้ำยาล้างรถหรือแชมพูล้างรถซึ่งก็มีหลายคนเลือกที่จะใช้น้ำยาล้างจานหรือสบู่ในการล้างรถด้วยเหตุผลที่ว่า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย หรือคิดว่าอาจจะทำความสะอาดสีรถได้หมดจดกว่าน้ำยาล้างรถแต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่าการล้างรถด้วยน้ำยาล้างจานหรือสบู่นั้นจะดีกับสีรถ และปลอดภัยต่อพื้นผิวรถของคุณ เหตุผลสำคัญหลายประการซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่า การใช้น้ำยาล้างจานหรือสบู่ล้างรถ ก็สามารถช่วยในการทำความสะอาดรถได้เหมือนกัน แต่ก็อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด มีสารเคมีที่รุนแรงกับสีรถ น้ำยาล้างจานนั้นมีคุณสมบัติในการขจัดไขมัน และเศษอาหารที่ติดค้างอยู่กับภาชนะโดยเฉพาะ ดังนั้น หากนำมาใช้กับรถอาจทำให้เกิดความเสียหายกับพื้นผิวของสีรถได้ ล้างออกยาก การล้างรถด้วยน้ำยาล้างจานหรือสบู่อาจทำให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาด้วย เพราะน้ำยาล้างจานสามารถเกาะติดกับสีรถได้มากกว่าแชมพูล้างรถทั่วไป ทำให้ยากมากที่จะล้างออก และหากมีน้ำยาล้างจานหรือสบู่หลงเหลืออยู่ในสีรถของคุณตอนที่รถแห้งแล้ว ก็มีโอกาสสูงที่จะทิ้งสารตกค้างเอาไว้ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายกับสีรถได้ ทำให้แว็กซ์หลุด เนื่องจากน้ำยาล้างจานมีหน้าที่กำจัดไขมัน และสารอื่น ๆ ซึ่งจะมีผลทำให้น้ำยาเคลือบรถหรือแว็กซ์หลุดลอก และอาจทำให้ชั้นแล็กเกอร์เสื่อมสภาพหรืออายุสั้นลงอีกด้วย ทางเลือกอื่นล่ะ ใช้อะไรล้างรถดี ? ในเมื่อไม่ควรล้างรถด้วยน้ำยาล้างจานหรือล้างรถด้วยสบู่ แล้วมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือนใดบ้างที่คุณสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยในการล้างรถยนต์ ต้องเน้นย้ำเพื่อความเข้าใจอีกครั้งว่าไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดในครัวเรือนเป็นทางเลือกสำหรับการล้างรถ เพราะน้ำยาทำความสะอาดแต่ละชนิดที่อยู่ในบ้านของคุณมีจุด ประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น สบู่ มีไว้ชำระล้างร่างกาย, น้ำยาล้างจาน มีไว้สำหรับชำระล้างภาชนะอาหาร หรือ น้ำยาซักผ้า มีไว้ทำความสะอาดเสื้อผ้า เป็นต้น ขณะที่รถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ก็ไม่แตกต่างกัน เพราะรถของคุณต้องการน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมทางเคมีที่เหมาะสมกับพื้นผิว และสีรถ ซึ่งจะสามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ❗️❗️ //ขอบคุณข้อมูลจาก car.kapook.com//

NEW-2-32

ถนนร้อน ทำให้ยางรถระเบิดได้ จริงหรือ ?

⚙️ เนื่องจากยางรถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่สัมผัสกับพื้นถนนตรง ๆ อยู่แล้ว แล้วพื้นถนนก็มีความร้อนจากแดด หรืออุณหภูมิ แต่ต้องบอกว่าพื้นถนนที่ร้อนนั้น ไม่ได้มีผลอะไรกับยางรถยนต์ ของเราที่จะทำให้ระเบิดได้ เพราะเวลาที่รถยนต์ของเราวิ่งล้อรถยนต์ของเราก็หมุนไปเรื่อย ๆ ถ้าเราวิ่งด้วยความเร็วปกติ การที่เราขับรถไปนั้นจะมีแรงลมเข้ามาปะทะกับยางรถยนต์ ของเราอยู่แล้ว ซึ่งลมที่พัดเข้ามานั้นจะช่วยลดอุณหภูมิลงไปได้ ❓❓ สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการยางระเบิด 💣 ยางหมดอายุการใช้งาน เช่น แก้มยางมีรอยแตกลายงา บวม ฉีกขาด ดอกยางหมดสภาพ เป็นต้น 💣 ยางเก่าเก็บ 💣 ขับรถโดยใช้ความเร็วเกินพิกัดยางที่กำหนดไว้ 💣 บรรทุกน้ำหนักเกินค่ากำหนด 💣 สูบลมยางไม่ถูกต้อง 💣 เปลี่ยนยางใหม่แต่ใช้จุ๊บเติมลมอันเก่า 💣 ยางร้อนจัดเนื่องมาจากเบรกติดที่ล้อใดล้อหนึ่ง กรณีนี้อาจทำให้เกิดไฟไหม้รถได้ 💥💥 แต่ในกรณีเมื่อยางเกิดระเบิดขึ้นมา ควรจะต้องตั้งสติและควบคุมสติให้ดีๆ มือทั้งสองต้องจับพวงมาลัยให้แน่น ถอนคันเร่งออกแล้วมองกระจกหลังว่ามีรถตามมามากน้อยแค่ไหน แตะเบรกอย่างเบาๆ และถี่ ๆห้ามเหยียบคลัตช์โดยเด็ดขาด ทางที่ดีควรตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์เป็นประจำก่อนออกเดินทาง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น //ขอบคุณข้อมูลจาก รถนิยม.com//

106099895_2815651288666377_8494400672989065387_o

นั่งวินมอเตอร์ไซค์ล้ม เรียกร้องค่าเสียหายจากใครได้บ้าง?

นั่งวินมอเตอร์ไซค์ล้ม เรียกร้องค่าเสียหายจากใครได้บ้าง❓❓❓ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้น ผู้โดยสารสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากวินมอเตอร์ไซค์ได้ โดยใช้ พ.ร.บ. มอเตอร์ไซค์ ของรถที่คุณนั่งซ้อนมานั่นเอง ซึ่ง พ.ร.บ.มอเตอร์ไซค์ ให้ความคุ้มครอง ดังนี้ 🔵 ความคุ้มครองของ พ.ร.บ. มอเตอร์ไซค์ ผู้ประสบภัย สามารถเบิกใช้สิทธิ์จาก พ.ร.บ. มอเตอร์ไซค์ หรือ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 โดยใช้เอกสาร พ.ร.บ. มอเตอร์ไซค์ ของวินมอเตอร์ไซค์คันที่เรานั่งซ้อนมา เพื่อใช้ในการเคลม พ.ร.บ. โดยจะได้รับความคุ้มครองเป็นค่าเสียหายเบื้องต้น 🔵 ค่าเสียหายเบื้องต้น ▪️กรณีบาดเจ็บ เบิกจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาล (จ่ายตามจริง) ไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน ▪️กรณีได้รับความเสียหายต่อร่างกาย (สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ) จำนวน 35,000 บาทต่อคน ▪️กรณีเสียชีวิต เบิกจ่ายเป็นค่าปลงศพ จำนวน 35,000 บาทต่อคน ▪️-กรณีได้รับบาดเจ็บและสูญเสียอวัยวะ หรือ เสียชีวิตในภายหลัง สามารถเบิกจ่ายได้ไม่เกินคนละ 65,000 […]

106070133_2814290968802409_1753157439396877983_o

ภาษีรถยนต์ ต่างกับ พ.ร.บ.รถยนต์ อย่างไร?

ภาษีรถยนต์ ต่างกับ พ.ร.บ.รถยนต์ อย่างไร❓❓❓ 🔺 ภาษีรถยนต์ คืออะไร ❓ ภาษีรถยนต์ หรือ การต่อทะเบียนรถยนต์ เป็นสิ่งที่รถยนต์ทุกคันต้องทำเป็นประจำทุกปีตามที่กฎหมายกำหนด หากต่อภาษีรถยนต์ล่าช้า จะมีค่าปรับร้อยละ 1 ต่อเดือน และถ้าขาดต่อภาษีรถยนต์ติดต่อกัน 3 ปี ก็จะทำให้ทะเบียนรถยนต์ถูกระงับ ต้องไปขอทะเบียนใหม่ แถมยังโดนเรียกภาษีย้อนหลังอีกด้วย แต่สำหรับรถยนต์ที่ต่อภาษีรถยนต์ประจำปีแล้ว จะได้รับ ป้ายภาษี หรือ ป้ายวงกลม มาติดไว้ที่กระจกหน้ารถ ซึ่งเจ้าป้ายนี้หลายคนมักเข้าใจผิดว่าเป็น พ.ร.บ.รถยนต์ แต่จริงๆ แล้ว คือ ป้ายที่แสดงว่ารถยนต์คันนี้ได้ทำการชำระภาษี และต่อทะเบียนรถยนต์เรียบร้อยแล้วต่างหาก ซึ่งถ้าเป็น พ.ร.บ. รถยนต์ จะมาในรูปแบบของเอกสารขนาด A4 ธรรมดา ที่เป็นกรมธรรม์ พ.ร.บ. และแสดงรายละเอียดรถยนต์อย่างชัดเจน 🔺 พ.ร.บ. รถยนต์ คืออะไร ❓ พ.ร.บ. รถยนต์ หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับที่รถยนต์ทุกคันต้องมี เพื่อเป็นการคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากรถในกรณีที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ […]

NEW-2-27

จำเป็นจะต้องจอดรถตากแดดทุกวัน ทำอย่างไรไม่ให้รถเป็นเตาอบ?

☀️☀️☀️ จอดรถตากแดด นาน ๆ พอกลับเข้ามาในรถอีกที อาจจะกลายเป็นเตาอบขนาดใหญ่ได้ ซึ่งแทบจะทำให้คุณเป็นลมคารถ เพราะภายในรถยนต์ที่ร้อนระอุ มีวิธีใดบ้างที่จอดรถตากแดดแบบไม่ให้ห้องโดยสารร้อนมากเกินไป 🔥🔥 1️⃣ ใช้ม่านบังแดด วิธีคลาสสิกที่คนทั่วไปใช้กัน คือม่านบังแดดหรือแผ่นบังแดด เสียเวลาสักเล็กน้อยก่อนลงจากรถ เพื่อติดแผ่นบังแดดที่บริเวณกระจกหน้า – หลังรถและหน้าต่างรถ เพื่อป้องกันแสงแดดไม่ให้เข้ามาสู่ตัวรถได้ และช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องโดยสารรถยนต์ไปได้ด้วย 2️⃣ ใช้ผ้าใบคลุมรถ ติดผ้าใบคลุมรถยนต์เอาไว้ หากคุณรู้ว่าต้องจอดรถยนต์กลางแดดร้อนจัด การคลุมรถยนต์ด้วยผ้าใบคลุมรถยนต์ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้รถยนต์ไม่ร้อนจนเกินไป อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันสีรถไม่ให้ซีดจางลงไปได้อีกด้วย โดยเฉพาะรถยนต์สีขาว ที่เมื่อเจอแสงแดดมาก ๆ จะเริ่มซีดและกลายเป็นสีเหลืองอ่อน 3️⃣ ผ้าขนหนูคลุมพวงมาลัย พวงมาลัยรถยนต์นั้นส่วนใหญ่เป็นหนัง และจะสะสมความร้อนเอาไว้เมื่อเจอแสงแดดเป็นเวลานาน ๆ ทำให้มีความร้อนสูงมาก และอาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ขับขี่รถยนต์ได้ ดังนั้น การคลุมพวงมาลัยด้วยผ้าขนหนู จะช่วยลดความร้อนบริเวณพวงมาลัยลงได้ เพราะแสงแดดไม่ได้ปะทะกับพวงมาลัยโดยตรง ทำให้มือคุณไม่ถูกลวกเมื่อคุณกลับขึ้นรถและจับพวงมาลัย 4️⃣ ใช้ผ้าห่มคลุมที่นั่ง เช่นเดียวกับพวงมาลัย เบาะที่นั่งรถยนต์ก็มักจะเป็นหนังที่สะสมความร้อนเอาไว้ เมื่อต้องตากแดดเป็นเวลานาน ดังนั้น หากคุณไม่อยากถูกนาบไปด้วยความร้อนจากเบาะที่นั่ง ก่อนจะออกจากรถใช้ผ้าขนหนู หรือผ้าห่มคลุมเบาะที่นั่งของคุณเอาไว้ นอกจากนี้ วิธีนี้จะช่วยพรางไม่ให้คนภายนอกเห็น ว่าภายในรถของคุณมีสิ่งของมีค่าอะไรบ้าง […]