94225278_2755286784702828_7409677390080638976_o

9 อาการเสี่ยงอันตราย ที่ไม่ควรขับรถบนท้องถนน

Sharing is caring!

9 อาการเสี่ยงอันตราย ที่ไม่ควรขับรถบนท้องถนน 🚗🚕

1️⃣ อาการเกี่ยวกับสายตา
การขับขี่รถยนต์ต้องใช้สายตาอย่างมากในการรับรู้
หากท่านใดมีอาการโรคเกี่ยวกับตา อาทิ ต้อหิน ต้อกระจก หรือจอประสาทตาเสื่อม จะสร้างปัญหาอย่างมากในการขับขี่รถยนต์เวลากลางคืน ทำให้วิสัยทัศน์การมองเห็นไม่ชัดเจน อาการต้อหินจะทำให้การมองเห็นนั้นจะแคบลง และการมองเห็นแสงไฟในลักษณะที่พล่ามัว

2️⃣ โรคพาร์กินสัน
โรคนี้หลายคนคงมองว่าเป็นโรคผู้สูงอายุ แต่โรคพาร์กินสัน คนวัยหนุ่มก็สามารถเป็นได้เช่นกัน ซึ่งทำให้มีอาการเกร็ง มือสั่น เท้าสั่น ทำอะไรช้าลง เมื่อต้องขับรถจะไม่สามารถขับขี่ได้ดี เป็นโรคที่เกิดจากอาการทางระบบประสาท ทำให้การเคลื่อนไหวช้า

3️⃣ โรคลมชัก
มีความอันตรายขณะขับขี่อย่างมาก เนื่องจากผู้ป่วยจะมีอาการชักเกร็ง และกระตุกโดยที่ไม่รู้ตัว สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย

4️⃣ อาการทางสมอง
อาการเกี่ยวกับสมองขั้นต้น อาทิ อาการหลง ๆ ลืม ๆ อาจจะเกิดได้กับหลายคน หลายอย่าง หลายสาเหตุ เนื่องจากนอนไม่พอ ทำให้สมองตื้อคิดไม่ออก ลืมว่าจะต้องไปไหน ไปยังไง ซึ่งอาจจะมีผลต่อการตัดสินใจในการขับขี่รถยนต์ ที่ต้องมีการตัดสินใจที่เด็ดขาดอยู่พอสมควร

5️⃣ อาการข้อเสื่อม ข้ออักเสบต่าง ๆ
โรคปวดข้อ ปวดกระดูก อาการข้อเสื่อม ข้ออักเสบในส่วนต่าง ๆ อาการนี้อาจจะไม่หนักมาก แต่ทรมาน
เมื่อมาขับขี่รถยนต์บนถนน โดยเฉพาะขับขี่เป็นเวลานานๆ ไม่สามารถเอี้ยวตัว หรือบิดไปมาได้ ทำให้อาจเกิดอันตรายได้

6️⃣ โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหลอดเลือดในสมอง ทำให้แขนขานั้นไม่มีแรงขับรถ หรือ เหยียบคันเร่ง เหยียบเบรก อาจมีการเกร็งและชักกระตุก
หรือ ขากระตุก ส่งผลต่อการเหยียบเบรกหรือเหยียบคันเร่ง โดยไม่ตั้งใจ ทำให้เกิดเหตุสุดวิสัย ระบบสมองสั่งการได้ไม่เต็มที่
ทำให้แขน ขาตอบสนองได้ช้าลง

7️⃣ โรคหัวใจ
ขับรถอยู่ดีๆ มีอาการเจ็บหน้าอกอย่างรุนแรง แน่นหน้าอกหายใจไม่ออก เมื่อต้องขับขี่รถยนต์เป็นเวลานาน
ความเครียดเมื่อรถติด ทำให้อาการดังกล่าวกำเริบ แล้วนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้

8️⃣ โรคเบาหวาน
อาจอาการวูบขณะขับรถยนต์ อาการของโรคเบาหวาน หน้ามืด ใจสั่น สมาธิไม่ดีเหมือนคนปกติ ตาพร่ามัว
ทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลงมาก

9️⃣ การทานยาบางชนิด
การรับประทานยา ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน เนื่องจากฤทธิ์ของยานั้น มีหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะยาแก้แพ้ต่าง ๆ ควรเลี่ยงการขับขี่รถยนต์อย่างมาก เนื่องจากจะทำให้ง่วง มึอาการมึนงง การตอบสนองการขับขี่ทำได้ไม่ดีเหมือนเดิม ทำให้เกิดอุบัติเหตุอย่างง่ายดาย เพราะฉะนั้นไม่ควรรับประทานยาที่มีฤทธิ์แรง
ก่อนขับรถทุกครั้ง

สุดท้ายสิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือต้องไม่ประมาทเมื่ออยู่บนท้องถนน เพราะไม่ได้มีเพียงแค่เราเท่านั้นที่อยู่บนถนน มีอีกหลากหลายชีวิตที่ฝากไว้ร่วมกับคุณ เพียงแค่ปฏิบัติตามนี้ก็สามารถหลีกเลี่ยงจากการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดกันได้บ้างแล้วไม่มากก็น้อยครับ 😃👍

Sharing is caring!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *